Snapshot

สหรัฐอเมริกา

นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลาง (Fed) สาขานิวยอร์ก กล่าวย้ำว่า ภาคธนาคารจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงวัฒนธรรมองค์กร โดยกล่าวอ้างถึงกรณีอื้อฉาวที่เกิดขึ้นกับธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ว่าเป็นหลักฐานที่พิสูจน์ให้เห็นว่า การเสนอสิ่งจูงใจเพื่อกระตุ้นให้พนักงานเร่งสร้างผลงานที่ดีนั้นยังคงเป็นปัญหาสำคัญในภาคการเงินของสหรัฐ นายดัดลีย์แสดงความเห็นถึงเรื่องดังกล่าวระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมนายธนาคารและเจ้าหน้าที่กำกับดูแลการธนาคารที่กรุงลอนดอน โดยครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายดัดลีย์แสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมในการให้ค่าตอบแทนตามผลงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับภาคธนาคาร อย่างไรก็ตาม ประธานเฟด นิวยอร์ก ไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงินหรือสภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งเป็นประเด็นที่ตลาดการเงินจับตามอง ทั้งนี้ เวลส์ ฟาร์โก ถูกสอบสวนในคดีอาญาและถูกปรับเป็นเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์ กรณีที่พนักงานสร้างบัญชีลูกค้าปลอมจำนวนกว่า 2 ล้านบัญชีเพื่อเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ด้านการเงินของธนาคาร ซึ่งจากเหตุการณ์อื้อฉาวดังกล่าวส่งผลให้เวลส์ ฟาร์โก ตัดสินใจปลดพนักงาน 5,300 คนที่เกี่ยวข้องกับการขายผลิตภัณฑ์ด้านหลักทรัพย์พ่วงผลิตภัณฑ์ด้านประกันภัย หรือที่เรียกว่า ครอสเซลลิ่ง (Cross Selling) ซึ่งหลังจากนั้นนายจอห์น สตัมฟ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ก็ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง

สำนักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจ (BEA) ของสหรัฐฯ รายงานว่า ตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐลดลง 3.1% สู่ระดับ 1.124 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 โดยการปรับตัวลดลงของยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว เป็นผลมาจากยอดเกินดุลรายได้ปฐมภูมิที่เพิ่มขึ้น 1.99 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งชดเชยยอดขาดดุลสินค้าที่ขยายตัวขึ้น 1.75 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดเกินดุลบริการและรายได้ทุติยภูมิมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างน้อย ทั้งนี้ ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาส 4 เทียบเท่ากับ 2.4% ของGDP ซึ่งลดลงจาก 2.5% ในไตรมาส 3

นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐสาขาชิคาโกกล่าวว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะรอจนถึงการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 13-14 มิ.ย.เป็นอย่างน้อย ในการตัดสินใจว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐอีกครั้งหรือไม่ โดยการรอดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้เฟดมีเวลาในการพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจและข้อมูลในตลาดการเงิน รวมทั้งดูความชัดเจนในแผนนโยบายการคลังของคณะผู้บริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ  นายอีแวนส์กล่าวว่าหากรอจนถึงเดือนมิ.ย. เราก็จะมีเวลาในการประชุม 2 ครั้งในการประเมินว่า ตลาดการเงินได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง, ประเมินทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในกรุงวอชิงตัน และแนวโน้มของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในกรุงวอชิงตัน และประเมินตัวเลขที่เปลี่ยนแปลงไป และรวมไปถึงประเด็นที่ว่าราคาปรับตัวขึ้นหรือไม่

ยุโรป:อังกฤษ

นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษจะเริ่มดำเนินกระบวนการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ Brexit ในวันที่ 29 มี.ค. ซึ่งจะถือเป็นการเริ่มต้นการเจรจาต่อรองระยะ 2 ปี และการเจรจานี้จะเป็นการกำหนดรูปแบบความสัมพันธ์ในอนาคตระหว่างยุโรปกับอังกฤษ รัฐบาลอังกฤษระบุว่า ทูตถาวรประจำอียูได้แจ้งต่อนายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (อีซี) ว่า อังกฤษตั้งใจจะประกาศใช้มาตรา 50 ในสนธิสัญญาลิสบอนในวันที่ 29 มี.ค. โดยมาตรา 50 นี้เป็นกลไกในการเริ่มต้นถอนตัว  อังกฤษทำประชามติเรื่อง Brexit ในวันที่ 23 มิ.ย. 2016 และชาวอังกฤษ 52% โหวตเลือกให้อังกฤษถอนตัวออกจากอียู อียูระบุว่าอียูพร้อมที่จะเริ่มต้นการเจรจาต่อรอง และภายในเวลา 48 ชั่วโมงหลังจากมีการเริ่มใช้มาตรา 50 ในวันที่ 29 มี.ค. นายทัสก์ก็จะส่งร่างแนวทางในการเจรจาต่อรองไปให้แก่ประเทศสมาชิกอียูอีก 27 ประเทศ ซึ่งนั่นหมายความว่า การเจรจาต่อรองอาจจะเริ่มต้นในเดือนพ.ค.เป็นอย่างเร็วที่สุด

สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อในเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวขึ้น 2.3% (yoy) จากระดับ 1.8% ในเดือนมกราคม ราคาเชื้อเพลิงและราคาอาหารที่แพงขึ้นเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นสูง นอกจากนี้ ผลการลงประชามติ Brexit เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วได้ส่งผลให้เงินปอนด์อ่อนค่าลงอย่างมาก ซึ่งเป็นเหตุให้สินค้านำเข้ามีราคาแพงขึ้นตัวเลขเงินเฟ้อที่มีการเปิดเผยล่าสุดนี้ นับว่าสูงที่สุดตั้งแต่เดือนกันยายน 2556 และสูงกว่าเป้าหมายที่ 2% ของธนาคารกลางอังกฤษ ทั้งยังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2556 ที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลาง ทั้งนี้ ธนาคารกลางอังกฤษคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า อัตราเงินเฟ้อของประเทศจะอยู่ที่ 2.8% ในปีหน้า

มาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ชี้ไม่ควรมีปฏิกิริยารุนแรงเกินไปต่อข้อมูลเศรษฐกิจเพียงเดือนเดียว หลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อของอังกฤษเพิ่มึ้น 2.3% ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางที่ 2% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี ทั้งนี้ นายคาร์นีย์กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวในการตอบคำถามเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ระหว่างที่เขาได้เข้าร่วมการอภิปรายแบบคณะว่าด้วยมาตรฐานจรรยาบรรณธนาคาร ในกรุงลอนดอน ทั้งนี้ เงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ในวันนี้ หลังจากทางการอังกฤษรายงานว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของอังกฤษทะยานขึ้นสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางอังกฤษ ซึ่งส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษอาจจะใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน

ฝรั่งเศส

นางมารีน เลอเปน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส จากพรรค National Front (FN) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองชูนโยบายประชานิยมขวาจัด โดยหนุนให้ฝรั่งเศสแยกตัวจากสหภาพยุโรป และนายเอมมานูเอล มาครอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ จะทำการโต้วาทีในวันนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของฝรั่งเศสที่มีการจัดโต้วาทีระหว่างตัวเก็งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ก่อนที่จะถึงการเลือกตั้งรอบแรกในวันที่ 23 เม.ย. ทั้งนี้ การเลือกตั้งของฝรั่งเศสจะแบ่งออกเป็น 2 รอบ โดยรอบแรกจะมีขึ้นในวันที่ 23 เม.ย. ซึ่งแต่ละพรรคจะทำการส่งตัวแทนพรรคลงแข่งขัน ส่วนนักการเมืองอิสระก็สามารถลงสมัครแบบอิสระได้เช่นกัน แต่ต้องได้รับการรับรองจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, สมาชิกวุฒิสภา และผู้แทนท้องถิ่นอย่างน้อย 500 คน หลังจากนั้นจะเริ่มให้ประชาชนลงคะแนนเสียง โดยผู้ที่มีคะแนนสูงสุด 2 อันดับจะเข้าสู่การเลือกตั้งรอบที่ 2 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 7 พ.ค. โดยประชาชนจะต้องมาลงคะแนนเสียงกันอีกครั้ง ก่อนที่จะมีผู้ชนะเพียงคนเดียวที่จะขึ้นไปนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีฝรั่งเศส การโต้วาทีดังกล่าวจะกินเวลา 3 ชั่วโมง และคาดว่าจะมีผู้ชมทางโทรทัศน์จำนวนหลายล้านคน

กรีซ

นายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป เปิดเผยว่า กรีซและกลุ่มประเทศเจ้าหนี้ยังคงมีความคิดเห็นที่ไม่สอดคล้องกันในเรื่องการทบทวนนโยบายเศรษฐกิจรอบที่สอง ขณะที่รัฐมนตรีคลังจาก 19 ประเทศสมาชิกยูโรโซนเห็นพ้องกันที่จะยกระดับการเจรจาขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ สำหรับการเจรจาครั้งต่อไปนั้น ทั้งสองฝ่ายจะพยายามช่วยกันหาทางออกให้กับปัญหาใหญ่ที่ยังค้างคา พร้อมหาข้อสรุปเพื่อบรรลุข้อตกลงในขั้นสุดท้าย ก่อนที่การประชุมยูโรกรุ๊ปครั้งต่อไปจะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 7 เมษายนนี้ ทั้งนี้ การหาข้อสรุปต่อข้อตกลงในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินต่อกรีซเป็นครั้งที่ 3 ได้ล่าช้าจากกำหนดเดิมมานานเกือบหนึ่งปี เนื่องจากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการรัดเข็มขัดที่กลุ่มเจ้าหนี้ยื่นเงื่อนไขให้กับกรีซ และแผนการปฏิรูปที่ทางการกรีซได้นำเสนอ

เอเซีย: จีน

สื่อของทางการจีนรายงานว่า จีนอาจจะประกาศกฎด้านการลงทุนในต่างประเทศของบริษัทจีนในปีนี้ ซึ่งจะระบุถึงกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆที่จะได้รับการสนับสนุนด้านการลงทุน และกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะมีข้อจำกัด ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ผู้ควบคุมกฎระเบียบของจีนได้ยับยั้งการลงทุนในต่างประเทศเพื่อสกัดเงินทุนไหลออกมากขึ้น ซึ่งมีส่วนที่ทำให้หยวนอ่อนค่าลง นายจง ซาน รมว.พาณิชย์ของจีนกล่าวเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ว่า บริษัทจีนจำนวนหนึ่งได้ลงทุนในต่างประเทศ "อย่างปิดหูปิดตา และไม่สมเหตุสมผล" ในการลงทุนต่างๆที่จีนไม่ส่งเสริม สำนักปริวรรตเงินตราของรัฐบาลจีน (SAFE) เปิดเผยว่า รัฐบาลจะเฝ้าระวังการลงทุน "อย่างไม่สมเหตุสมผล" ในภาคอสังหาริมทรัพย์, บันเทิง, กีฬา และกลุ่มอื่นๆอย่างใกล้ชิดมากขึ้น ความพยายามเพื่อควบคุมการลงทุนในต่างประเทศดูเหมือนว่าจะให้ผลที่มีนัยสำคัญ โดยการลงทุนในต่างประเทศที่ไม่ใช่ภาคการเงินลดลง 52.8% ในเดือนม.ค.-ก.พ.จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ปริมาณการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ และบันเทิงร่วงลงกว่า 80%

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีนกล่าวว่า จีนจะเปิดภาคบริการ, ภาคการผลิต และภาคเหมืองแร่เพื่อต้อนรับต่างชาติมากยิ่งขึ้น ถึงแม้บริษัทต่างชาติเผชิญปัญหาจากนโยบายกีดกันทางการค้าก็ตาม ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนพยายามนำเสนอจีนในฐานะผู้นำโลกในด้านการค้าเสรี อย่างไรก็ดี บริษัทต่างชาติบางแห่งตั้งข้อสังเกตว่า บริษัทของตนได้รับการต้อนรับน้อยลงในจีนเมื่อเทียบกับในอดีต ซินหัวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีหลี่กล่าวในวันจันทร์ว่า จีนจะปรับปรุงกระบวนการบริหารสำหรับการลงทุนของต่างชาติ และจะรับประกันความเสมอภาคทางการแข่งขันสำหรับบริษัทที่จดทะเบียนในจีน นายหลี่กล่าวว่า จีนสนับสนุนให้บริษัทที่ได้รับทุนจากต่างชาติเข้ามาจดทะเบียนและออกจำหน่ายหุ้นกู้ในจีน และเข้าร่วมในโครงการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานด้วย

จีนคาดหวังการดำเนินการเชิงบวกจากการยินยอมให้ออสเตรเลียเข้าร่วมในแผนริเริ่มเส้นทางสายไหมใหม่ เมื่อนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีนเดินทางเยือนออสเตรเลียในสัปดาห์นี้ แต่แหล่งข่าวเปิดเผยว่า รัฐบาลออสเตรเลียอาจจะรอโอกาสก่อนที่จะทำพันธสัญญา แผนดังกล่าวซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า One Belt, One Road หรือ OBOR เป็นนโยบายต่างประเทศและเศรษฐกิจที่เป็นสัญลักษณ์ของประธานาธิบดีสี่ จิ้นผิงของจีน โดยคาดว่าจะมีการใช้งบรายจ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมหาศาลเพื่อเชื่อมโยงจีนกับเอเชีย และภูมิภาคอื่นๆ นายเจิ้ง เจ๋อกวง รมช.ต่างประเทศจีนกล่าวว่า มีโอกาสและช่องทางมากมายสำหรับความร่วมมือ"ระหว่างจีนและออสเตรเลียสำหรับแผน One Belt, One Road ซึ่งเป็นประเด็นที่เขากล่าวว่า นายหลี่จะหยิบยกขึ้นมาหารือในระหว่างการเยือนออสเตรเลีย

ฟิลิปปินส์

รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางฟิลิปปินส์จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่ธนาคารกลางยังไม่วิตกกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น นักเศรษฐศาสตร์ 9 ใน 10 คนระบุว่า ธนาคารกลางฟิลิปปินส์จะคงอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมประเภทข้ามคืนที่ 3.0%

ไทย

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เผยคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่คณะกรรมการกฤษฎีกาปรับแก้แล้ว โดยคาดว่าจะเริ่มจัดเก็บได้ในปี 62 นายณัฐพร กล่าวแถลงข่าวภายหลังการประชุม ครม. ว่าครม.เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่เคยเข้าครม.ไปแล้ว และคณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม หลังจากนี้ก็จะเข้า สนช. ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 2-3 เดือน หลังจากนั้นก็จะลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา แล้วจะให้เวลา 1 ปี เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีเวลาเตรียมตัว ก็น่าจะเริ่มเก็บได้ในเดือนมกราคมปีถัดไป คือน่าจะเริ่มได้มกราคม 62

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการลงทุนจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว วงเงินลงทุน 1.66 พันล้านบาท นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ กล่าวในการแถลงข่าวภายหลังการประชุมครม. ว่าจากนโยบายของรัฐบาล ที่จะมีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ 10 พื้นที่ นิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว ถือว่าเป็นพื้นที่แรกที่ได้เริ่มดำเนินการ เขากล่าวว่า สำหรับนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าว อยู่ในพื้นที่อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยห่างจากด่านอรัญประเทศ 9 กิโลเมตร(กม.) มีพื้นที่ 660 ไร่ ซึ่งการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) ได้ทำสัญญาเช่าจากกรมธนารักษ์ เป็นระยะเวลา 50 ปี และมีมูลค่าการลงทุน 1.66 พันล้านบาท ซึ่งเป็นเงินจากงบประมาณ 735 ล้านบาท โดยเป็นงบประมาณปี 60 จำนวน 140 ล้านบาท, งบประมาณปี 61 จำนวน 560 ล้านบาท และเงินสำรองอีก 35 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเป็นเงินของ กนอ. ทั้งนี้ กนอ.คาดว่าจะใช้เวลาในการพัฒนาพื้นที่และสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานทั้งหมด 15 เดือน และคาดว่าจะขายพื้นที่ได้หมดใน 5 ปี ส่วนอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ดังกล่าว เช่น อุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงอุตสาหกรรมเบา

คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ ผ่านโครงการสินเชื่อ SMEs Transformation Loan วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท ผ่านธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.) โดยกำหนดเงื่อนไขให้เงินกู้รายละไม่เกิน 15 ล้านบาท ในระยะเวลาไม่เกิน 7 ปี ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่เข้าถึงสินเชื่อได้เพิ่มขึ้น 3 พันราย สำหรับอัตราดอกเบี้ย จะคิด 3% ต่อปี ใน 3 ปีแรก และคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ในปีที่ 4-7 รวมทั้งมีทางบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ให้ โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมการค้ำประกันในปีแรก แต่จะคิดค่าธรรมเนียม 1% ในปีที่ 2-3 และเพิ่มเป็น 1.75% ในปีที่ 4-7

ประเด็นที่น่าสนใจ

กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยข้อมูลการส่งออกและนำเข้าเดือนก.พ.ในวันพุธที่ 22 มีนาคมนี้

อื่นๆ

แหล่งข่าวกล่าวว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) มีความโน้มเอียงมากยิ่งขึ้นในการต่ออายุมาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันออกไปหลังเดือนมิ.ย. เพื่อจะได้สร้างความสมดุลให้แก่ตลาดน้ำมัน อย่างไรก็ดี รัสเซียและประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกประเทศอื่นๆ จำเป็นต้องเข้าร่วมในมาตรการนี้ต่อไปด้วย โอเปกกำลังปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงเดือนม.ค.-มิ.ย.ปีนี้ ซึ่งถือเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 8 ปี ทางด้านประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก ซึ่งรวมถึงรัสเซีย ตกลงที่จะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงราว 6 แสนบาร์เรลต่อวันในช่วงเวลาเดียวกัน ข้อตกลงนี้ส่งผลบวกต่อราคาน้ำมัน แต่สต็อกน้ำมันในคลังของประเทศอุตสาหกรรมปรับสูงขึ้น และอัตราผลกำไรที่สูงขึ้นก็กระตุ้นให้บริษัทสหรัฐปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน ทางด้านเจ้าหน้าที่กลุ่มโอเปกหลายคนเชื่อว่า อาจจะต้องใช้เวลานานกว่า 6 เดือนในการปรับลดสต็อกน้ำมันในคลัง

Money Market

- ดอลลาร์/บาท วันอังคาร (21 มีค.) เงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ขณะที่วันนี้ดอลลาร์สหรัฐฯก็แข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินเอเซียส่วนใหญ่โดยแม้ตอนนี้นักลงทุนจะคาดการณ์ว่าแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯจะเป็นไปอย่างช้าๆแต่ว่าการคาดการณ์ดังกล่าวก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วดังที่เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาซึ่งตลาดปรับการคาดการณ์แนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯในเดือนนี้ในเวลาสั้นๆเพียงสองสัปดาห์ก่อนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯหลายคนแสดงความเห็นไปในทิศทางที่ต่างจากในเดือนก่อนอย่างมาก ทั้งนี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯที่ยังเป็นขาขึ้นจากเศรษฐกิจสหรัฐฯที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องและมีมาตรการเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐฯหนุน แต่การขึ้นอาจจะเร็วหรือช้าตามที่คณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯมองว่าเหมาะสม ทำให้ดอลลาร์สหรัฐฯยังมีแนวโน้มระยะปานกลางถึงระยะยาว ( 6-12 เดือน)  แข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินส่วนใหญ่ แต่ดอลลาร์สหรัฐฯอาจจะอ่อนค่าได้ชั่วคราวบางช่วงเนื่องจากหลายปัจจัย เช่นการคาดการณ์ว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯจะชะลอออกไปซึ่งส่งผลให้เงินทุนระยะสั้นไหลเข้ามาในตลาดการเงินเอเซียชั่วคราว รวมทั้งปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจจีนที่อาจจะส่งผลให้เยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ

- ดอลลาร์/เยน วันอังคาร (21 มีค.)   เงินเยนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้ตามภาวะที่วันนี้ดอลลาร์สหรัฐฯกลับมาแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินอื่นๆส่วนใหญ่ตามปัจจัยระยะปานกลางถึงระยะยาวที่อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯมีแนวโน้มสูงขึ้นเร็วกว่าประเทศอื่นๆ อย่างไรก็ดีเยนแข็งค่าในช่วงตลาดสหรัฐฯ

- ยูโร/ดอลลาร์ วันอังคาร ( 21 มีค.) เงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเช้าวันนี้โดยได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่านายเอ็มมานูเอล มาครง  ผู้สมัครสายกลางของฝรั่งเศสได้คะแนนนิยมสูงกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ อย่างไรก็ดีผู้มีสิทธิโหวตเกือบ 40% ระบุว่า ตนยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะสนับสนุนผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใดในบรรดาผู้สมัครสำคัญ 5 คน อย่างไรก็ดีหลายปัจจัยยังมีแนวโน้มกดดันค่าเงินยูโรในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า เช่นการเลือกตั้งในฝรั่งเศส ( 23 เมษายน และ 7 พฤษภาคม) การเลือกตั้งในเยอรมนี ( 24 กันยายน ) และการเริ่มเจรจา Brexit ( 29 มีนาคม 2560) ขณะที่ปัจจัยอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯก็หนุนดอลลาร์สหรัฐฯให้มีแนวโน้มแข็งค่าเทียบกับเงินยูโรเช่นกัน

Capital Market

- ตลาดสหรัฐฯ วันอังคาร ( 21 มีค.) ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลงอย่างหนักในวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนวิตกว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะเผชิญความยากลำบากในการปรับลดภาษีลงตามที่สัญญาไว้ และตลาดมีความวิตกเพิ่มขึ้นก่อนการลงมติเรื่องประกันสุขภาพ ทั้งนี้ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลดลง 1.14% สู่ระดับ 20,668.01, ดัชนี S&P 500 ปิดลดลง 1.24% สู่ระดับ 2,344.02 และดัชนี Nasdaq ปิดลดลง 1.83% สู่ระดับ 5,793.83

- ตลาดหุ้นเอเชีย วันอังคาร ( 21 มีค.)ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียหลายตลาดสูงขึ้นในวันนี้ อย่างไรก็ดีดัชนีนิกเกอิปิดตลาดลดลง 0.34% มาอยู่ที่ 19,455.88 ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินลดลงมากกว่าตลาด หลังจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐลดลง ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดตลาดเพิ่มขึ้น 0.35% มาอยู่ที่ 3,262.20 อย่างไรก็ดีรายงานข่าวชี้ว่าความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุนถูกสกัดท่ามกลางสัญญาณสภาพคล่องที่ตึงตัวขึ้นในระบบธนาคาร หุ้นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานมีราคาเพิ่มขึ้นจากข่าวที่ว่า จีนคาดหวังการดำเนินการเชิงบวกจากการยินยอมให้ออสเตรเลียเข้าร่วมในแผนริเริ่มเส้นทางสายไหมใหม่ เมื่อนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีนเดินทางเยือนออสเตรเลียในสัปดาห์นี้  ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารยังคงกดดันตลาด ขณะที่ในปี 2016 ธนาคารของจีนอาจจะมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินโลก เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น และทางเลือกการให้สินเชื่อที่ทำกำไรได้น้อยลง

- ตลาดหุ้นไทย วันอังคาร ( 21 มีค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ปิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยวันนี้มีแรงซื้อมากในหุ้นกลุ่มปิโตรเคมี พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ พลังงาน และกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยปิดตลาดวันนี้ SET INDEX เพิ่มขึ้น 5.24 จุด

โดย สำนักวิจัยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ประจำวันที่ 22 มี.ค. 2560

Written by :

กระแสหุ้นออนไลน์

 

Comments

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment