คงเส้นคงวา..โดยนายคิดดี

ถ้ารู้ว่าสบายอย่างนี้ เชื่อว่า “ราเกซ สักเสนา” คงตัดสินใจเข้ามาสู้คดีในไทยตั้งนานแล้ว ไม่ต้องเล่นบทเด็กดื้อหนีออกจากบ้านไปสิบกว่าปีแบบนี้

จะไม่ให้สบายได้ยังไง พอลงจากเครื่องบิน ก็มีคนคอยหาม คอยติดตามทำข่าวกันอย่างกับเป็นซุปเปอร์สตาร์ แถมพอเข้าเรือนจำ กระเดือกอะไรไม่ลง ก็มีคนคอยหาของตามใจมาให้รับประทาน

โดนจับขังรวมก็ถูกแยกให้ไปอยู่ห้องขังเดี่ยว เปิดพัดลมเป่าเสร็จสรรพ พร้อมบอดี้การ์ด เป็นนักโทษชั้นดีคอยประกบอีก 2 คน แถมกล้องวงจรปิดจับตาไว้ ไม่ให้ยุงมาไต่ ไรมาตอม เพราะถือเป็นผู้ต้องหาชื่อดัง ที่หลายคนอยากฟังว่า เขาจะพูดอะไรถึงใครบ้าง

แต่ก็มีอีกหลายคน ที่ไม่อยากให้เขาพูดอะไร หรือแม้แต่หายใจ ก็ไม่ต้องการเห็น

อันนี้ก็สุดแต่เวรกรรมของแต่ละคน ถึงงานนี้จะช้าอ้อมโลกมาหลายปี แต่สุดท้ายเรื่องทุกเรื่องก็ต้องมีตอนจบของตัวเองเสมอ

หันมาดูอีกคดีที่ครึกโครมกันไปสดๆร้อน กับข่าวลือร้อนๆที่ถล่มตลาดหุ้นไทยเมื่อกลางเดือนก่อน ล่าสุด ตำรวจรวบตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 2 ราย เป็นหญิงหนึ่ง ชายหนึ่ง ซึ่งวนเวียนอยู่ในแวดวงตลาดหุ้นทั้งคู่

แน่นอนว่า ความคืบหน้า ย่อมดีกว่าความไม่คืบหน้า แต่ก็เชื่อได้เช่นกัน ว่านักลงทุนและประชาชนร้อยทั้งร้อย ก็มองว่า เรื่องต้องไม่จบแค่นี้ และผู้ต้องสงสัยสองรายนี้ คงไม่ใช่ “คนที่คุณก็อยากรู้ว่าใคร” ที่กำลังตามหากันอยู่

พูดไปแล้ว ก็อาจโดนหาว่า ลากมาเพื่อหาเรื่องไปด่าคนอื่น แต่อย่างไรก็คงต้องพูดถึงการทำงานของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่มีหน้าที่และอำนาจเต็มมือ ในการเรียกดูข้อมูลการซื้อขายในตลาดหุ้น เพื่อประติดประต่อจิ๊กซอว์ชิ้นต่างๆ เป็นหลักฐานให้การกระบวนการยุติธรรม นำไปใช้ดำเนินการลากตัวคนผิดมาลงโทษ

ทว่า ถึงวันนี้ ดูเหมือนว่า คณะกรรมการลูกเต่า ยังยึดความสุขุมคัมภีรภาพ และดำเนินการอย่างเชื่องช้า ได้อย่างคงเส้นคงวา เช่นเดิม ความเคลื่อนไหวล่าสุดก็เมื่อเกือบสองสัปดาห์ก่อน ที่จัดแถลงข่าวขึ้น ซึ่งสร้างความหวังว่าจะได้เห็น ก.ล.ต. ได้ข้อมูลเด็ดอะไรมานำเสนอ

แต่ก็กลายเป็นแค่การ เผยข้อมูลแบบผิวๆว่า พบบัญชีการซื้อขาย หุ้นที่อยู่ในประเทศ  1 บัญชี ที่มีความน่าสงสัย  ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยร่วงหนักจากข่าวลือเมื่อกลางเดือนก่อน พร้อมออกตัวตามสไตล์ว่า ก.ล.ต.กำลังตรวจสอบว่า บัญชีดังกล่าว มีความเกี่ยวโยงกับการปล่อยข่าวลือหรือไม่

แม้จะเข้าใจข้อจำกัดของ ก.ล.ต. ว่าไม่ได้มีอำนาจสืบสวนสอบสวน ได้เหมือนกันกับตำรวจสันติบาล หรือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่ด้วยอำนาจในการสั่งการ และเรียกดูข้อมูลต่างๆจากโบรกเกอร์ และตลาดหลักทรัพย์ฯ มันน่าจะทำอะไรได้มากกว่า และไม่ใช่ปล่อยให้เวลาทอดเลยมาขนาดนี้ โดยที่ไม่มีความคืบหน้าใหม่บังเกิดขึ้นอย่างเป็นชิ้นเป็นอัน

เพราะผู้ต้องสงสัย 2 ราย ที่รวบตัวได้ เข้าใจว่ามาจากฝีมือของตำรวจ ที่ตามเกาะรอยจากการใช้คอมพิวเตอร์ และเป็นการดำเนินการตามความผิด ตามพ.ร.บ. เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

ส่วนการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ยังไม่ได้มีการดำเนินการกับใครเลย

และคงไม่ต้องฝากเรียนไปยังท่าน เลขาฯก.ล.ต. ว่า กรณีอื่น จะอ้างว่าต้องอาศัยความรอบคอบอะไรยังไงก็ว่าไป  แต่กรณีนี้ ดูยังไงก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดา และควรได้รับการจัดชั้นให้เป็นกรณีพิเศษอย่างไม่ต้องสงสัย

จะสงสัยก็แต่ การดำเนินการของ ก.ล.ต. ภายใต้การบริหารของท่านชายฯ  นอกจากงานเอกสารและกฎระเบียบที่เป็นงานประจำแล้ว เมื่อไหร่จะรู้จักดำเนินการกับเรื่องใหญ่ๆ ด้วยความรวดเร็วและชัดเจน เพื่อให้เป็นที่พึ่งพาของนักลงทุนได้บ้างซะที

                                                                                                 นายคิดดี

This e-mail address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it

นายคิดดี

Written by :

พิราบขาว

 

Comments

B

i

u

Quote

Code

List

List item

URL

Name *
Code   
ChronoComments by Joomla Professional Solutions

Submit Comment